ในโอกาสที่วชิราวุธวิทยาลัยมีอายุครบ
๑๐๐ ปี ในปีพ.ศ. ๒๕๕๓ วชิราวุธวิทยาลัยโดยหมวดภาษาไทยได้ริเริ่มโครงการ
“รางวัลการแสดงความสามารถเรียนรู้พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ ๖” สำหรับนักเรียนโรงเรียนต่างๆ ขึ้น
และจัดการแข่งขันเป็น ๓ ระดับ ได้แก่
ระดับประถมศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย มีเป้าหมายเชิญชวนโรงเรียนทั่วประเทศเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อเผยแพร่พระเกียรติคุณและพระอัจฉริยภาพด้านอักษรศาสตร์ให้เป็นที่ประจักษ์ในหมู่เยาวชนอย่างกว้างขวาง และให้เยาวชนได้มีโอกาสเรียนรู้ความงามทางภาษาและเรียนรู้สังคมไทยผ่านพระราชนิพนธ์
โดยได้เชิญภาควิชาภาษาไทย คณะอักษรศาสตร์
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภาควิชาภาษาไทย
คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสำนักหอสมุดแห่งชาติ (หอวชิราวุธานุสรณ์)
ซึ่งเป็นสถาบันที่เกี่ยวเนื่องในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นผู้ร่วมดำเนินโครงการ
การจัดแข่งขันในปีแรก
หมวดภาษาไทยได้เชิญโรงเรียนเฉพาะในกรุงเทพมหานคร
และจัดการแข่งขันในช่วงการเฉลิมฉลอง ๑๐๐ ปี วชิราวุธวิทยาลัย เมื่อเดือนธันวาคม
๒๕๕๓ ทว่าการณ์ไม่เป็นไปอย่างที่คิด เนื่องจากมีโรงเรียนเข้าร่วมแข่งขันน้อยมาก
จนสามารถจัดได้เฉพาะระดับประถมศึกษาซึ่งมีโรงเรียนสมัครเข้ามาประมาณ ๑๐
โรงเท่านั้น ส่วนระดับมัธยมต้นและมัธยมปลายจำเป็นต้องเลื่อนการแข่งขันออกไปอย่างไม่มีกำหนด
พร้อมมีคำถามตามมาว่า วชิราวุธวิทยาลัยไม่เป็นที่รู้จักหรือ พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่
๖ ไม่เป็นที่น่าสนใจหรือ และคำถามอื่นๆ อีกมากมาย
กระนั้น คณะทำงานก็มิได้ย่อท้อ
เมื่อมีคำถามก็ต้องหาคำตอบ
ในที่สุดก็ได้ทราบข้อมูลว่าในช่วงเดือนธันวาคมคือช่วงที่โรงเรียนทั่วไปกำลังจัดสอบกลางภาคเรียนที่
๒ และช่วงเดือนที่จะว่างเว้นจากกิจกรรมโรงเรียนอันมากมายตลอดปีนั้น
คือเดือนสิงหาคม
คณะทำงานจึงต้องวางแผนกลยุทธ์กันใหม่ ดังนั้นในปีพ.ศ.๒๕๕๔
จึงได้ประกาศสอบแข่งขันระดับมัธยมต้นและมัธยมปลายที่ถูกเลื่อนมา มีโรงเรียนสนใจสมัครเข้าแข่งขันจำนวน ๓๘ โรง
เมื่อเริ่มเห็นแนวโน้มที่จะดำเนินการให้ไปสู่เป้าหมายคือ
ให้กิจกรรมการแข่งขันการแสดงความสามารถเรียนรู้พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ ๖
เป็นการแข่งขันในระดับประเทศ ดังนั้นในเดือนมกราคม
พ.ศ.๒๕๕๕
คณะทำงานจึงได้เสนอให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการจัดการแข่งขันซึ่งประกอบด้วยผู้บริหาร
ครู และเจ้าหน้าที่จากหลายฝ่ายมาดำเนินการร่วมกัน เป็นโครงการของโรงเรียน โดยมี
ดร.สาโรจน์ ลีสวรรค์
ผู้บังคับการวชิราวุธวิทยาลัย (พ.ศ.๒๕๕๐ – ๒๕๕๙ ) เป็นประธานคณะกรรมการ โครงการดังกล่าวสังกัดฝ่ายวิชาการโดยมีหมวดภาษาไทยเป็นผู้ดำเนินการหลัก
และมีนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายเข้าร่วมเป็นคณะทำงานในส่วนของการต้อนรับ
และการคุมสอบ
กิจกรรมดังกล่าวเริ่มมีความเข้มข้นขึ้น
มีการพัฒนากระบวนการจัดการอย่างต่อเนื่อง มีคณะกรรมการที่ร่วมแรงทำงานอย่างเข้มแข็ง
และเป็นทีมงานคุณภาพ จำนวนโรงเรียนสมัครเข้าแข่งขันเพิ่มขึ้นทุกปี
จาก ๓๘ โรงในปี ๒๕๕๔ เป็น ๕๓, ๖๒, ๑๐๒, ๙๖ ในปีต่อๆ มาตามลำดับ และในปีพ.ศ. ๒๕๕๙ มีจำนวนถึง ๑๓๕ โรง โดยเป็นโรงเรียนในกรุงเทพมหานคร
๘๒ โรง และต่างจังหวัด (๓๒ จังหวัด) รวม ๕๓ โรงเรียน มีนักเรียนเข้าร่วมแข่งขันทั้ง
๓ ระดับ จำนวน ๔๔๗ คน และครูผู้ดูแล ๒๕๓ คน
ปีพ.ศ.๒๕๕๗ เป็นต้นมา โรงเรียนได้รับพระกรุณาจากพระเจ้าวรวงศ์เธอ
พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุประทานถ้วยรางวัลชนะเลิศ ๓ ระดับ โดยมีมูลนิธิพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวให้การสนับสนุนการดำเนินงาน
สำหรับนักเรียนวชิราวุธวิทยาลัย
หมวดภาษาไทยได้คัดเลือกนักเรียนเข้าร่วมการแข่งขันทุกระดับ
การแข่งขันดำเนินไปเช่นเดียวกับนักเรียนภายนอก
เพื่อสามารถเปรียบเทียบความรู้ความสามารถกับนักเรียนอื่นๆ ได้ โดยจัดรางวัลให้แก่นักเรียนวชิราวุธฯ
แยกจากรางวัลทั่วไป เพื่อให้กระบวนการจัดการเกิดความโปร่งใส
ไม่เป็นที่คลางแคลงใจสำหรับโรงเรียนทั่วไปที่เข้าร่วมกิจกรรม และนักเรียนวชิราวุธฯ ก็ได้แสดงความรู้ความสามารถให้เป็นที่ประจักษ์
โดยปีพ.ศ.๒๕๕๕ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น นักเรียนวชิราวุธฯ ได้รับรางวัลเทียบเท่ารางวัลชนะเลิศ
และระดับประถมศึกษาได้รับรางวัลเทียบเท่ารองชนะเลิศอันดับ ๒ พ.ศ.๒๕๕๖ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
นักเรียนวชิราวุธฯ ได้รับรางวัลเทียบเท่ารองชนะเลิศอันดับ ๒ และระดับประถมศึกษา
ได้รับรางวัลเทียบเท่ารองชนะเลิศอันดับ ๒ และรองชนะเลิศอันดับ ๓ ปีพ.ศ.๒๕๕๘ นักเรียนวชิราวุธฯ ได้รับรางวัลเทียบเท่ารางวัลชนะเลิศ
ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย และระดับประถมศึกษา
เมื่อการจัดแข่งขันการแสดงความสามารถเรียนรู้พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่
๖ สำหรับนักเรียนดำเนินไปได้ ๕ ปี ในปีพ.ศ.๒๕๕๘ คณะกรรมการจึงได้เปิดกิจกรรมเพิ่มเติมเพื่อขยายองค์ความรู้เรื่องพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่
๖ ให้กว้างขวางขึ้น โดยจัดกิจกรรมบรรยายทางวิชาการสำหรับครูที่นำนักเรียนมาร่วมแข่งขัน
และครูทั่วไปที่สนใจ
การดำเนินกิจกรรมเผยแพร่พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่
๖
ทั้งภายในโรงเรียนและระหว่างโรงเรียนดำเนินไปอย่างราบรื่นด้วยความร่วมแรงร่วมใจกันของบุคลากรทุกฝ่ายในวชิราวุธวิทยาลัย
ด้วยหัวใจดวงเดียวกันคือ สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระผู้ทรงสถาปนาวชิราวุธวิทยาลัย และปรารถนาจะให้รางวัลนี้จะเป็น “อนุสสาวรีย์เชิดชูพระเกียรติยศ”
ดังพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวผู้พระราชทานรางวัลนี้แก่นักเรียนวชิราวุธวิทยาลัยมาตั้งแต่ปีพ.ศ.๒๕๗๐
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น